คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ในหน้านี้:
- คำถามที่พบบ่อย - ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวีซ่า
- คำถามที่พบบ่อย - การถูกปฏิเสธวีซ่า
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าทำงานชั่วคราว
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่านักเรียน
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าสำหรับนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ
- คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนาชั่วคราว
- คำถามที่พบบ่อย - ตรวจสอบสถานะหนังสือเดินทางของข้าพเจ้า
- คำถามที่พบบ่อย - โปรไฟล์ของผู้สมัคร
- คำถามที่พบบ่อย - ผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19
- คำถามที่พบบ่อย - การบรรเทาทุกข์สำหรับบุคคลที่ถูกปฏิเสธภายใต้พระราชบัญญัติ 9645
คำถามที่พบบ่อย - ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวีซ่า
- หนังสือเดินทางของข้าพเจ้าต้องมีอายุการใช้งานคงเหลือเท่าใดจึงจะสามารถใช้ยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ ได้
- ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าหรือไม่
- ค่าธรรมเนียม ESTA คืออะไร และใครบ้างที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้
- จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าพเจ้าเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่มี ESTA
- หากข้าพเจ้าซึ่งเป็นบุคคลต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สามารถยื่นขอวีซ่าชั่วคราวในประเทศไทยได้หรือไม่
- ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวทุกคนจะต้องมาสัมภาษณ์ที่สถานทูตฯ หรือสถานกงสุลสหรัฐฯ หรือไม่
- ข้าพเจ้ามีวีซ่าชั่วคราวซึ่งกำลังจะหมดอายุในเร็วๆ นี้ และต้องการต่ออายุวีซ่า ข้าพเจ้าจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าใหม่ตั้งแต่ต้นหรือไม่
- หนังสือเดินทางของข้าพเจ้าหมดอายุแล้ว แต่วีซ่าสหรัฐฯ ที่อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มนั้นยังมีอายุการใช้งานคงเหลืออยู่ ข้าพเจ้าจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าใหม่หรือไม่
- จะเป็นอย่างไร หากข้าพเจ้าเป็นพลเมืองสหรัฐฯที่มีสองสัญชาติ และต้องการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯด้วยหนังสือเดินทางที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ
- หากข้าพเจ้าถือสองสัญชาติ ข้าพเจ้าควรจะใช้หนังสือเดินทางเล่มใดในการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา
- บุตรของข้าพเจ้าที่มีสองสัญชาติสามารถไปสหรัฐฯโดยใช้หนังสือเดินทางต่างประเทศของตนได้หรือไม่? บุตรของข้าพเจ้าที่มีสองสัญชาติควรใช้หนังสือเดินทางใดในการเข้า/ออกจากสหรัฐฯ?
- ข้าพเจ้าสามารถยืดอายุของวีซ่าที่มีอยู่ได้อย่างไร
- ข้าพเจ้าจะต้องยื่นแบบฟอร์มขอวีซ่าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่
- "กระบวนการพิจารณา" คืออะไร
- ข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าวีซ่าของข้าพเจ้ามีความหมายอย่างไรบ้าง
- วีซ่าของข้าพเจ้าจะหมดอายุในระหว่างที่ข้าพเจ้าอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีปัญหาอะไรหรือไม่
- เมื่อเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว จะต้องปฏิบัติตามตัวอย่างไร
- หากข้าพเจ้าไม่ได้คืนแบบฟอร์ม I-94 ตอนเดินทางออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องทำอย่างไร
- หากข้าพเจ้ามีปัญหาในการยื่นแบบฟอร์ม DS-160 และสั่งพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 จะสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน
- ข้าพเจ้าไม่มีบัญชีธนาคารที่ทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ สามารถให้บุคคลอื่นชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าแทนได้หรือไม่
- ผู้สมัครวีซ่าที่ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคจำเป็นต้องจองนัดสัมภาษณ์วีซ่าหรือไม่
- ผู้สมัครวีซ่าถาวรยังไม่ได้รับชุดเอกสารปิดผนึกเพื่อนำขึ้นเครื่องไปประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ควรทำอย่างไร
- จะทราบได้อย่างไรว่าวีซ่าถาวรของข้าพเจ้าได้รับการอนุมัติภายใต้ระบบอิเล็กทรอนิกส์
- เหตุใดผู้สมัครวีซ่าถาวรบางท่านต้องนำชุดเอกสารปิดผนึกขึ้นเครื่องไปประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่บางท่านไม่ต้อง
- ข้อมูลด้านโซเชียลมีเดียอะไรบ้าง ที่ข้าพเจ้าต้องเตรียมในการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 หรือแบบฟอร์ม DS-260
คำถามที่ 1 หนังสือเดินทางของข้าพเจ้าต้องมีอายุการใช้งานคงเหลือเท่าใดจึงจะสามารถยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ ได้
ท่านต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุและมีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ท่านตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐฯอย่างน้อยหกเดือน (นอกจากได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงรายประเทศ)
คำถามที่ 2 ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าหรือไม่
ท่านจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมในโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าหากท่านเป็นพลเมืองของประเทศตามโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า มีหนังสือเดินทางซึ่งสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องอ่าน และจะเดินทางไปเพื่อติดต่อธุรกิจหรือเยี่ยมเยียนเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 90 วัน มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดอื่นๆของโปรแกรม และได้รับการอนุมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการขออนุมัติการเดินทาง (ESTA)
ท่านจะต้องถือสัญชาติของประเทศที่ได้รับสิทธิ์ตามโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าเท่านั้นจึงจะสามารถเดินทางภายใต้โปรแกรมนี้ได้ โดยผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรซึ่งพำนักในประเทศที่ได้รับสิทธิ์ตามโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าจะไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า เราแนะนำให้ท่านเข้าเว็บไซต์ของโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า ก่อนการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อพิจารณาว่าท่านมีสิทธิ์เข้าร่วมในโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าหรือไม่
คำถามที่ 3 ค่าธรรมเนียม ESTA คืออะไร และใครบ้างที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้
ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าทุกคนจะต้องผ่านการลงทะเบียน ESTA โดยจะมีค่าธรรมเนียม 21 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการลงทะเบียน ESTA ท่านสามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบออนไลน์โดยใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ซึ่งได้แก่ วีซ่า มาสเตอร์การ์ด อเมริกันเอ็กซ์เพรส หรือดิสคัฟเวอร์ โดยที่บุคคลอื่น (บริษัทนำเที่ยว สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น) สามารถชำระค่าธรรมเนียม ESTA แทนท่านได้ในกรณีที่ท่านไม่มีบัตรเครดิตประเภทดังกล่าว หากการลงทะเบียน ESTA ได้รับการปฏิเสธ ท่านจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 4 เหรียญสหรัฐฯเท่านั้น
คำถามที่ 4 จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าพเจ้าเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่มี ESTA
ผู้ที่เดินทางภายใต้โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าโดยไม่ผ่านการอนุมัติจาก ESTA จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินหรือเรือทุกลำที่มุ่งหน้าสู่ประเทศสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าท่านจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินหรือเรือดังกล่าว ท่านอาจจะต้องเสียเวลาในการดำเนินการต่างๆนานมาก อีกทั้งยังอาจได้รับการปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศสหรัฐฯ (เช่นสนามบินหรือท่าเรือขาเข้า) โดยทั่วไปแล้วการกรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน ESTA ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และการตอบอนุมัติก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที การอนุมัติจะมีอายุใช้งานได้ถึงสองปี ยกเว้นกรณีที่หนังสือเดินทางของท่านหมดอายุก่อน ซึ่งในกรณีดังกล่าว อายุการใช้งานของ ESTA จะถูกลดให้เท่ากับอายุของหนังสือเดินทาง
คำถามที่ 5 หากข้าพเจ้าเป็นบุคคลต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สามารถยื่นขอวีซ่าชั่วคราวในประเทศไทยได้หรือไม่
โดยทั่วไปแล้วผู้สมัครควรยื่นขอวีซ่าในประเทศที่ตนเองถือสัญชาติอยู่ หรือในประเทศที่ตนพำนักอยู่ แต่ไม่ว่าบุคคลใดก็ตามที่อยู่ในประเทศไทยอาจยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามผู้สมัครไม่ควรตัดสินใจว่าจะยื่นขอวีซ่าที่ใดด้วยเหตุผลจากความสะดวกหรือความล่าช้าในการจองนัดสัมภาษณ์เท่านั้น สิ่งสำคัญที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจคือผู้สมัครสามารถแสดงความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับพื้นที่ที่อยู่ในอาณาเขตของสถานกงสุลแห่งใดมากที่สุด
ในการยื่นขอวีซ่าไม่ได้เป็นการรับประกันว่าท่านจะได้รับการอนุมัติวีซ่า รวมถึงไม่มีการรับประกันใดๆว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการมากน้อยเพียงใด หากท่านได้รับการปฏิเสธวีซ่า ท่านจะไม่สามารถขอค่าธรรมเนียมวีซ่าคืนได้ในทุกกรณี
คำถามที่ 6 ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวทุกคนจะต้องมาสัมภาษณ์ที่สถานทูตฯ หรือสถานกงสุลสหรัฐฯ หรือไม่
ใช่ ผู้สมัครส่วนใหญ่ต้องมาสัมภาษณ์ที่สถานทูตฯ หรือสถานกงสุลสหรัฐฯ ทั้งนี้ มีข้อยกเว้นการสัมภาษณ์วีซ่าบางกรณี ซึ่งโดยทั่วไปจะยกเว้นให้ผู้สมัครดังต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องมาแสดงตัว
- ผู้สมัครวีซ่า A1 A2 (ผู้ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ) ผู้สมัครวีซ่า C2 C3 (ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการที่ต้องการเดินทางผ่านแดน) หรือ ผู้สมัครวีซ่า G1 G2 G3 G4 (ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการที่เดินทางไปปฏิบัติร่วมกับองค์กรระดับนานาชาติ หรือผู้แทนขององค์กรระดับนานาชาติ)
- ผู้สมัครที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป หรือต้องการยื่นขอวีซ่าให้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี สามารถยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์ รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาคลิกที่นี่
- บางกรณีผู้สมัครวีซ่า B1/B2 หรือ C1/D อาจมีคุณสมบัติในการต่ออายุวีซ่าทางไปรษณีย์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา
คำถามที่ 7 ข้าพเจ้ามีวีซ่าชั่วคราวซึ่งกำลังจะหมดอายุในเร็วๆนี้ และต้องการต่ออายุวีซ่า ข้าพเจ้าจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าใหม่ตั้งแต่ต้นหรือไม่
การยื่นขอวีซ่าชั่วคราวแต่ละครั้งเป็นกระบวนการที่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน ผู้สมัครจะต้องยื่นขอวีซ่าตามขั้นตอนปกติไม่ว่าท่านเคยได้รับอนุมัติวีซ่ามาก่อนแล้ว หรือวีซ่าชั่วคราวของท่านยังไม่หมดอายุก็ตาม
คำถามที่ 8 หนังสือเดินทางของข้าพเจ้าหมดอายุแล้ว แต่วีซ่าอเมริกาที่อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มนั้นยังมีอายุการใช้งานคงเหลืออยู่ ข้าพเจ้าจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าใหม่หรือไม่
ไม่จำเป็น ในกรณีที่วีซ่าของท่านยังไม่หมดอายุ ท่านสามารถเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้โดยใช้หนังสือเดินทางสองเล่ม (เล่มเก่าและเล่มใหม่) ตราบใดที่วีซ่ายังไม่หมดอายุ ไม่ได้รับความเสียหาย และเป็นวีซ่าประเภทที่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของการเดินทาง (ตัวอย่างเช่น: วีซ่านักท่องเที่ยว ถ้าวัตถุประสงค์หลักของการเดินทางของท่านคือเพื่อท่องเที่ยว) ทั้งนี้ชื่อ สัญชาติและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆในหนังสือเดินทางทั้งสองเล่มจะต้องตรงกัน
คำถามที่ 9 จะเป็นอย่างไร หากข้าพเจ้าเป็นพลเมืองสหรัฐฯที่มีสองสัญชาติ และต้องการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯด้วยหนังสือเดินทางที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ
แม้ว่าสหรัฐฯจะอนุญาตให้บุคคลถือสอง (หรือหลาย) สัญชาติได้ แต่มีข้อกำหนดบางประการที่พลเมืองสหรัฐฯที่มีสองสัญชาติต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะถือสัญชาติอื่นใดก็ตาม:
- ท่านต้องเข้าและออกจากสหรัฐฯ ด้วยหนังสือเดินทางของสหรัฐฯของท่าน ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐฯกำหนดให้พลเมืองสหรัฐฯทุกคนต้องเข้าและออกจากสหรัฐฯด้วยหนังสือเดินทางสหรัฐฯที่ยังไม่หมดอายุ พลเมืองสหรัฐฯไม่มีสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ
- หากบุตรของท่านเป็นพลเมืองสหรัฐฯ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯเช่นกัน นี่เป็นเรื่องจริงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการจัดทำเอกสารดังกล่าวในฐานะพลเมืองสหรัฐฯ ก็ตาม หากท่านต้องการเข้าและออกจากสหรัฐฯพร้อมกับบุตรของท่านที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ท่านต้องมีหนังสือเดินทางสหรัฐฯสำหรับบุตรของท่าน
คำถามที่ 10 หากข้าพเจ้าถือสองสัญชาติ ข้าพเจ้าควรใช้หนังสือเดินทางเล่มใดในการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา
หากหนึ่งในสองสัญชาติของท่านไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน ท่านสามารถยื่นขอวีซ่าโดยใช้สัญชาติใดก็ได้ตามที่ท่านต้องการ แต่จะต้องระบุสัญชาติทั้งหมดของท่านในแบบฟอร์มขอวีซ่าที่ยื่นต่อสถานทูตฯหรือสถานกงสุลสหรัฐฯให้ครบ สำหรับพลเมืองสหรัฐฯแม้จะถือสองสัญชาติก็ต้องเดินทางเข้าและออกประเทศสหรัฐฯโดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศสหรัฐฯเท่านั้น
คำถามที่ 11 บุตรของข้าพเจ้าที่มีสองสัญชาติสามารถไปสหรัฐฯโดยใช้หนังสือเดินทางต่างประเทศของตนได้หรือไม่? บุตรของข้าพเจ้าที่มีสองสัญชาติควรใช้หนังสือเดินทางใดในการเข้า/ออกจากสหรัฐฯ?
- ตามกฎหมาย พลเมืองสหรัฐฯ รวมถึงบุคคลที่มีสองสัญชาติ ต้องใช้หนังสือเดินทางของสหรัฐฯ เพื่อข้าและออกจากสหรัฐฯ พลเมืองสหรัฐฯไม่มีสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ พลเมืองสองสัญชาติสหรัฐฯ/แคนาดา ควรพกหนังสือเดินทางทั้งสองเล่ม (สหรัฐฯ และแคนาดา) เมื่อเดินทางเข้า/ออกจากสหรัฐฯ โดยต้องแสดงหนังสือเดินทางสหรัฐฯ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ และอาจต้องแสดงหนังสือเดินทางแคนาดาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของแคนาดา
- หากบุตรของท่านเป็นพลเมืองสหรัฐฯ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯเช่นกัน นี่เป็นเรื่องจริงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการจัดทำเอกสารดังกล่าวในฐานะพลเมืองสหรัฐฯ ก็ตาม หากท่านต้องการเข้าและออกจากสหรัฐฯพร้อมกับบุตรของท่านที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ท่านต้องมีหนังสือเดินทางสหรัฐฯสำหรับบุตรของท่าน
คำถามที่12 ข้าพเจ้าจะสามารถยืดอายุวีซ่าที่มีอยู่ได้อย่างไร
วีซ่าทุกประเภทจะไม่สามารถยืดอายุการใช้งานได้ ท่านจะต้องยื่นขอวีซ่าใหม่
คำถามที่ 13 ข้าพเจ้าจะต้องยื่นแบบฟอร์มขอวีซ่าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่
ใช่ ผู้สมัครจะต้องกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าให้สมบูรณ์และยื่นผ่านระบบออนไลน์
คำถามที่ 14 "กระบวนการพิจารณา" คืออะไร
การยื่นขอวีซ่าบางกรณีอาจต้องผ่านกระบวนการพิจารณาเพิ่มเติมซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัครต้องรอผลวีซ่านานขึ้นกว่าปกตินับจากวันที่ได้เข้ารับสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล เว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา
คำถามที่ 15 ข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าวีซ่าของข้าพเจ้ามีความหมายอย่างไรบ้าง
ทันทีที่ท่านได้รับวีซ่าโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านที่ปรากฏอยู่บนหน้าวีซ่านั้นถูกต้อง หากมีข้อมูลใดๆในวีซ่าของท่านที่ไม่ตรงกับข้อมูลในหนังสือเดินทางหรือไม่ถูกต้อง ให้ท่านติดต่อหน่วยงานที่มีอำนาจออกวีซ่า (เช่น สถานทูตฯหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ) ทันที วันหมดอายุของวีซ่าคือวันสุดท้ายที่ท่านสามารถใช้วีซ่านั้นเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าท่านจะอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้นานเพียงใด เจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นผู้พิจารณาระยะเวลาที่ท่านจะสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้ ตราบใดที่ท่านปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ก็จะไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าวีซ่าของท่านได้ที่เว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
คำถามที่ 16 วีซ่าของข้าพเจ้าจะหมดอายุในระหว่างที่ข้าพเจ้าอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีปัญหาอะไรหรือไม่
ท่านสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้ตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯอนุมัติให้เมื่อตอนที่ท่านเดินทางถึงประเทศสหรัฐฯ ซึ่งจะถูกประทับตราลงในหนังสือเดินทางของท่าน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
Q1คำถามที่ 17 เมื่อเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
สายการบินที่ท่านเดินทาง จะให้ใบศุลกากร 6059B สำหรับครอบครัวที่เดินทางมาด้วยกันจะใช้ใบศุลกากรเพียงใบเดียวเท่านั้น
วีซ่าไม่ได้เป็นการรับประกันว่าสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลต่างชาติเดินทางจากต่างประเทศมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศสหรัฐฯและขออนุญาตเข้าประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกาจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (CBP) มีอำนาจที่จะอนุญาตหรือปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ตลอดจนพิจารณาว่าผู้เดินทางจะสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้นานเพียงใด เมื่อท่านเดินทางมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯจะเป็นผู้พิจารณาระยะเวลาที่ท่านสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้ ก่อนให้ท่านเข้าประเทศ ในอดีตผู้เดินทางจะได้รับแบบฟอร์ม I-94 (บันทึกการเข้าประเทศ) ในรูปแบบกระดาษพร้อมข้อมูลดังกล่าว แต่ในปัจจุบันขั้นตอนนี้ถูกปรับให้เป็นระบบอัตโนมัติในเกือบทุกกรณี ผู้เดินทางจะได้รับการประทับตราเข้าประเทศจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ ลงในหนังสือเดินทาง ซึ่งจะระบุวันที่เดินทางเข้าประเทศ ประเภทของการเดินทาง และระบุว่าผู้เดินทางสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้จนถึงวันที่เท่าใด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ ในกรณีที่ท่านต้องการสำเนาของแบบฟอร์ม I-94 เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการจดทะเบียนคนต่างด้าว ตรวจสอบสถานะคนเข้าเมือง หรือการอนุมัติการว่าจ้างงาน ท่านสามารถขอข้อมูลได้ที่ www.cbp.gov/I94 และท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าประเทศอื่นๆได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ และท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าประเทศอื่นๆได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ
คำถามที่ 18 หากข้าพเจ้าไม่ได้คืนแบบฟอร์ม I-94 ตอนเดินทางออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องทำอย่างไร
ในอดีต บุคคลต่างชาติที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกาจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา (CBP) ให้เดินทางเข้าประเทศจะได้รับแบบฟอร์ม I-94 (บันทึกขาเข้า/ขาออก) ในรูปแบบกระดาษ ในปัจจุบันได้มีการปรับขั้นตอนนี้ให้เป็นระบบอัตโนมัติในเกือบทุกกรณี หากท่านได้รับแบบฟอร์ม I-94 หรือ I-94W ในรูปแบบกระดาษ แต่ไม่ได้ส่งมอบแบบฟอร์ม I-94 คืนให้กับสายการบินหรือ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ ขณะที่เดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯ ท่านสามารถเข้าไปที่ เว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ เพื่อดูขั้นตอนที่ถูกต้องว่าควรทำอย่างไร อย่าส่งแบบฟอร์ม I-94 หรือ I-94W ในรูปแบบกระดาษคืนไปที่สถานทูตฯหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ
หากท่านได้รับการประทับตราเข้าประเทศในหนังสือเดินทางของท่านแทนแบบฟอร์ม I-94 ในรูปแบบกระดาษ จะมีการสร้างบันทึก I-94 ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยที่ไม่ต้องมีแบบฟอร์มกระดาษอีก เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯจะบันทึกการเดินทางออกนอกประเทศสหรัฐฯ ของท่านในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ
คำถามที่ 19 หากข้าพเจ้ามีปัญหาในการยื่นแบบฟอร์ม DS-160 และสั่งพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 จะสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน
ศูนย์บริการข้อมูลของเราไม่สามารถให้ความช่วยเหลือท่านเกี่ยวกับแบบฟอร์มขอวีซ่าได้ ท่านสามารถส่งคำถามเกี่ยวกับการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ไปยัง เว็บไซต์ นี้
คำถามที่ 20 ข้าพเจ้าไม่มีบัญชีธนาคารที่ทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ สามารถให้บุคคลอื่นชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าแทนได้หรือไม่
หากท่านไม่มีบัญชีที่ทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต ท่านสามารถใช้บัญชีธนาคารออนไลน์ของผู้อื่น (เช่น ญาติหรือเพื่อนของท่าน) หรือสามารถไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าด้วยเงินสดที่ธนาคารได้
คำถามที่ 21 ผู้สมัครวีซ่าที่ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคจำเป็นต้องจองนัดสัมภาษณ์วีซ่าหรือไม่
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นไป ผู้สมัครวีซ่าที่ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคจะต้องจองนัดสัมภาษ์ผ่านเว็บไซต์นี้
คำถามที่ 22 ผู้สมัครวีซ่าถาวรยังไม่ได้รับชุดเอกสารปิดผนึกเพื่อนำขึ้นเครื่องไปประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ควรทำอย่างไร
โปรดทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้ระบบการสมัครวีซ่าถาวรแบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับวีซ่าถาวรบางประเภท หากศูนย์วีซ่าแห่งชาติ (NVC) หรือ สถานทูตฯหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ ได้ร้องขอให้ท่านยื่นเอกสารประกอบการพิจารณาผ่านระบบ CEAC แสดงว่าวีซ่าของท่านจะถูกอนุมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ท่านไม่จำเป็นต้องถือชุดเอกสารปิดผนึกเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ เว้นแต่ท่านจะได้รับแจ้งจากสถานทูตฯหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่อนุมัติวีซ่าให้ท่านเท่านั้น
โปรดวางใจได้ว่าเอกสารที่ท่านได้ทำการยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะเข้าไปในฐานข้อมูลเดียวกันกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (DHS/CBP) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบบุคคลที่อพยพเข้าประเทศสหรัฐฯ ทุกคน เมื่อท่านเดินทางถึงประเทศสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของท่าน เพื่อดำเนินการอนุมัติให้ท่านเข้าประเทศด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้
คำถามที่ 23 จะทราบได้อย่างไรว่าวีซ่าถาวรของข้าพเจ้าได้รับการอนุมัติภายใต้ระบบอิเล็กทรอนิกส์
ท่านสามารถดูบนหน้าวีซ่าถาวรของท่าน หากมุมขวาล่างของรูปถ่ายท่านในหน้าวีซ่ามีคำว่า “IVDOCS in CCD” หมายความว่าวีซ่าของท่านถูกอนุมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และท่านไม่ต้องนำชุดเอกสารปิดผนึกไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ
คำถามที่ 24 เหตุใดผู้สมัครวีซ่าถาวรบางท่านต้องนำชุดเอกสารปิดผนึกขึ้นเครื่องไปประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่บางท่านไม่ต้อง
โปรดทราบว่าระบบการสมัครวีซ่าถาวรแบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับวีซ่าถาวรบางประเภทได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 และจะใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าที่การสมัครวีซ่าถาวรทุกประเภทจะใช้ระบบนี้ ดังนั้นผู้สมัครวีซ่าถาวรบางท่านยังคงต้องนำชุดเอกสารปิดผนึกขึ้นเครื่องไปประเทศสหรัฐฯ จนกว่าระบบใหม่จะสมบูรณ์ วีซ่าถาวรของผู้ที่ยื่นขอวีซ่าในระบบปัจจุบันจะไม่มีคำว่า “IVDOCS in CCD” บนมุมขวาล่างของรูปถ่าย
คำถามที่ 25 ข้อมูลด้านโซเชียลมีเดียอะไรบ้าง ที่ข้าพเจ้าต้องเตรียมในการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 หรือแบบฟอร์ม DS-260
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้อัปเดตแบบฟอร์มยื่นขอวีซ่าถาวรและวีซ่าชั่วคราว เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการระบุข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดีย รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาคลิก ที่นี่
คำถามที่พบบ่อย - การถูกปฏิเสธวีซ่า
- มาตรา 214(b) คืออะไร
- ผู้สมัครจะสามารถพิสูจน์ถึง "ความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น" ได้อย่างไร
- การถูกปฏิเสธภายใต้มาตรา 214(b) มีผลถาวรหรือไม่
- ผู้ใดสามารถโน้มน้าวเจ้าหน้าที่กงสุลให้กลับคำตัดสินได้
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสังคมเปิด โดยประเทศสหรัฐฯไม่ได้กำหนดให้มีมาตรการควบคุมภายในเหมือนหลายต่อหลายประเทศ ที่มีผลบังคับใช้กับผู้มาเยือนส่วนใหญ่ อันได้แก่ การกำหนดให้ผู้เดินทางต่างชาติมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ดังนั้นกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯจึงได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่กงสุลสันนิษฐานว่าผู้สมัครวีซ่าทุกคนเป็นผู้มีเจตนาจะอพยพถิ่นฐานเป็นการถาวรจนกว่าผู้สมัครแต่ละคนจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้มีเจตนาดังกล่าว ในการที่ท่านจะสามารถใช้เอกสิทธิของการเดินทางในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างเต็มที่ ท่านมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าจะเดินทางกลับประเทศ ก่อนที่จะได้รับวีซ่าเยี่ยมเยียนชั่วคราวหรือวีซ่านักเรียน
คำถามที่ 1 มาตรา 214(b) คืออะไร
มาตรา 214(b) เป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองและสัญชาติ (INA) ซึ่งระบุว่า:
จะมีการสันนิษฐานว่า (b) บุคคลต่างด้าวทุกคน (ยกเว้นผู้พำนักชั่วคราวตามที่ได้กล่าวไว้ในย่อหน้าย่อย (L) หรือ (V) ตามมาตรา 101(a)(15) และยกเว้นผู้พำนักชั่วคราวตามที่ได้กล่าวไว้ในข้อบัญญัติใดๆตามมาตรา 101(a)(15)(H)(i) ยกเว้นวรรคย่อย (b1) ตามมาตราดังกล่าว) เป็นผู้มีเจตนาที่จะอพยพไปอยู่อย่างถาวร จนกว่าบุคคลผู้นั้นจะหาข้อพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานทางกฎหมายที่จะทำให้เจ้าหน้าที่กงสุลมั่นใจระหว่างการยื่นขอวีซ่า และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมั่นใจระหว่างการขอเข้าประเทศว่า วัตถุประสงค์ในการเข้าเมืองนี้ตนจะมีสิทธิได้รับ สถานะผู้พำนักชั่วคราวภายใต้มาตรา 101(a)(15) บุคคลต่างด้าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานของรัฐบาลต่างชาติใดๆ หรือขององค์กรต่างประเทศใดๆที่มีสิทธิได้รับเอกสิทธิการยกเว้น และความคุ้มกันภายใต้พระราชบัญญัติ ความคุ้มกันขององค์กรระดับนานาชาติ หรือคนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้ติดตาม คนรับใช้ ลูกจ้าง หรือสมาชิกของครอบครัว ที่ได้รับสิทธิ์ข้างต้นจะไม่สามารถยื่นขอหรือได้รับวีซ่าถาวรได้ หรือไม่มีสิทธิ์เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้อพยพถ้าผู้นั้นไม่ได้ทำการสละสิทธิ์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยถ้อยความและรูปแบบเดียวกัน ดังเช่นที่กำหนดไว้ ในมาตรา 247(b)
เจ้าหน้าที่กงสุลของเราต้องทำงานอย่างหนัก เนื่องจากจะต้องตัดสินใจในเวลาอันสั้นมากว่าผู้ใดมีคุณสมบัติควรได้รับวีซ่าชั่วคราว โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าหน้าที่จะตัดสินใจหลังจากที่ได้ทำการสัมภาษณ์สั้นๆ และทบทวนหลักฐานใดก็ตามซึ่งเกี่ยวกับความผูกพันที่ผู้สมัครนำมาแสดง เพื่อที่จะสามารถยื่นขอวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว หรือวีซ่านักเรียนได้ ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรา 101(a)(15)(B) หรือ (F) ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองและสัญชาติ ตามลำดับหากไม่เป็นเช่นนั้น จะส่งผลให้มีการปฏิเสธวีซ่าภายใต้ INA 214(b) สาเหตุของการถูกปฏิเสธวีซ่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่สุดเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดที่ว่านักธุรกิจ/ท่องเที่ยวหรือนักเรียนต้องแสดงให้เห็นว่าตนมีที่พำนักซึ่งอยู่ต่างแดนและไม่ได้มีความตั้งใจที่จะละทิ้งไป ผู้สมัครได้พิสูจน์ว่ามีที่พำนักดังกล่าวอยู่จริงโดยแสดงให้เห็นว่าตนมีความผูกพันอยู่ต่างแดนซึ่งเป็นสิ่งที่บังคับให้เดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสิ้นสุดการพำนักในประเทศแบบชั่วคราวแล้ว ซึ่งตามกฎหมาย การพิสูจน์ถึงประเด็นดังกล่าวเป็นภาระหน้าที่ของผู้สมัคร
คำถามที่ 2 ผู้สมัครจะสามารถพิสูจน์ "ความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น" ได้อย่างไร
ความผูกพัน ในที่นี้หมายถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของท่านในหลายๆด้านที่ผูกมัดตัวท่านไว้กับประเทศบ้านเกิดของท่านเอง ความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ละเมือง และแต่ละบุคคล ทั้งนี้รวมถึงหน้าที่การงานของท่าน บ้านพักอาศัยของท่าน และ/หรือ ความสัมพันธ์ของท่านกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
ในระหว่างการสัมภาษณ์วีซ่า เจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินการยื่นขอวีซ่าแต่ละกรณีอย่างเป็นเอกเทศ และพิจารณาเหตุการณ์แวดล้อมของผู้สมัคร แผนการเดินทาง หลักฐานด้านการเงิน และความผูกพันนอกประเทศสหรัฐฯซึ่งเป็นการยืนยันว่าผู้สมัครจะเดินทางออกนอกประเทศเมื่อสิ้นสุดการเยี่ยมเยียนชั่วคราว
คำถามที่ 3 การถูกปฏิเสธภายใต้มาตรา 214(b) มีผลถาวรหรือไม่
ไม่ การปฏิเสธ หรือการขาดคุณสมบัติตามมาตรา 214(b) นั้นมีผลต่อการยื่นขอวีซ่าในครั้งดังกล่าวเท่านั้น เนื่องจากไม่มีกระบวนการยื่นอุทธรณ์ดังนั้นเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาแล้วแผนกกงสุลจะไม่สามารถดำเนินการใดๆได้อีก หากผู้สมัครมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรได้รับการพิจารณา หรือมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นนับตั้งแต่การยื่นขอวีซ่าครั้งล่าสุด ท่านอาจยื่นขอวีซ่าใหม่ได้ ในการยื่นขอวีซ่าครั้งใหม่ท่านจะต้องกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ใหม่ ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่ และจองนัดสัมภาษณ์ใหม่ เข้าเว็บไซต์ของสถานทูตฯ หรือ สถานกงสุลสหรัฐฯ เพื่อศึกษาขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าใหม่
คำถามที่ 4 ผู้ใดสามารถโน้มน้าวเจ้าหน้าที่กงสุลให้กลับคำตัดสินได้
กฎหมายคนเข้าเมืองกำหนดให้หน้าที่ในการออกหรือการปฏิเสธวีซ่าเป็นของเจ้าหน้าที่กงสุลที่อยู่ต่างแดน เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีสิทธิเด็ดขาดในการตัดสินใจเกี่ยวกับวีซ่าทุกกรณี ตามกฎแล้วกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีอำนาจทบทวนคำตัดสินของสถานกงสุล แต่อำนาจดังกล่าวจำกัดอยู่ภายใต้การตีความทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งจะตรงข้ามกับการตัดสินตามข้อเท็จจริง ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธวีซ่าดังกล่าวอันเกิดจากคำถามที่ว่าผู้สมัครมีที่พำนักอยู่ต่างแดนตามที่กำหนดไว้หรือไม่นั้นถือเป็นข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงถือเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของเจ้าหน้าที่กงสุลที่สำนักงานในต่างแดนในการตัดสินชี้ขาด ผู้สมัครสามารถโน้มน้าวให้มีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสินหลังจากได้รับการปฏิเสธวีซ่าแล้วได้ด้วยการนำเสนอหลักฐานใหม่เกี่ยวกับความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติในการยื่นขอวีซ่า นอกเหนือจากมาตรา 214(b) นั้น กรุณาดูที่เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว
- หากข้าพเจ้ามีวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) จะสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้นานเท่าไร
- วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ของข้าพเจ้ากำลังจะหมดอายุหลังวันที่ข้าพเจ้าตั้งใจเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าจำเป็นต้องมีวีซ่าใหม่ก่อนออกเดินทางหรือไม่
- วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ของข้าพเจ้ากำลังจะหมดอายุในอีกหกเดือนข้างหน้า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องรอให้วีซ่าปัจจุบันหมดอายุก่อนจึงจะยื่นขอวีซ่าใหม่ หรือสามารถยื่นขอวีซ่าไว้ล่วงหน้าได้
- หากข้าพเจ้าเปลี่ยนชื่อ และ/หรือ นามสกุล วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ที่ใช้ชื่อและ/หรือนามสกุลเดิม ที่ยังไม่หมดอายุจะยังใช้เดินทางได้หรือไม่
- ข้าพเจ้าได้รับวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ขณะที่ข้าพเจ้ายังทำงานที่บริษัทเก่า ปัจจุบันข้าพเจ้าเปลี่ยนงานใหม่และบริษัทใหม่แล้ว และนายจ้างใหม่ต้องการให้ข้าพเจ้าเดินทางไปประชุมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนหน้า ข้าพเจ้าสามารถใช้วีซ่าเดิมได้หรือไม่ หรือต้องยื่นขอวีซ่าใหม่
- บุตรของข้าพเจ้ากำลังศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าสามารถไปพักอาศัยอยู่กับบุตรได้หรือไม่
คำถามที่ 1 หากข้าพเจ้ามีวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) จะสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้นานเท่าไร
วีซ่าชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ท่านเดินทางไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง (สนามบิน/ท่าเรือ) ในประเทศสหรัฐฯได้ เมื่อท่านเดินทางถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของท่านแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินการเรื่องการเข้าประเทศของท่านจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาที่ท่านสามารถอยู่ใน ประเทศสหรัฐฯได้ ท่านต้องเดินทางไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองในระหว่างที่วีซ่าชั่วคราวของท่านยังสามารถใช้เดินทางได้ ซึ่งไม่เกินและภายในวันสุดท้ายที่วีซ่ายังสามารถใช้งานได้อยู่ อายุของวีซ่าไม่ได้เป็นตัวกำหนดระยะเวลาที่ท่านสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้อย่างถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่ตัดสินเมื่อท่านเดินทางมาถึงประเทศสหรัฐฯแล้ว
คำถามที่ 2 วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ของข้าพเจ้ากำลังจะหมดอายุหลังวันที่ข้าพเจ้าตั้งใจเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าจำเป็นต้องมีวีซ่าใหม่ก่อนออกเดินทางหรือไม่
ท่านสามารถเดินทางไปประเทศสหรัฐฯได้ไม่เกินวันสุดท้ายที่วีซ่าสามารถใช้เดินทางได้ซึ่งจะปรากฏอยู่บนหน้าวีซ่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาที่ท่านสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้ ท่านยังคงสามารถพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้แม้ว่าวีซ่าจะหมดอายุไปแล้ว แต่จะต้องไม่เกินระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
คำถามที่ 3 วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ของข้าพเจ้ากำลังจะหมดอายุในอีกหกเดือนข้างหน้า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องรอให้วีซ่าปัจจุบันหมดอายุก่อนจึงจะยื่นขอวีซ่าใหม่ หรือสามารถยื่นขอวีซ่าไว้ล่วงหน้าได้
ท่านไม่จำเป็นต้องรอให้วีซ่าปัจจุบันของท่านหมดอายุ ท่านสามารถยื่นขอวีซ่าใหม่ได้ทันทีแม้ว่าวีซ่าปัจจุบันจะมีอายุการใช้งานคงเหลืออยู่ บางกรณี ท่านอาจมีคุณสมบัติในการต่ออายุวีซ่าทางไปรษณีย์ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิก ที่นี่
คำถามที่ 4 หากข้าพเจ้าเปลี่ยนชื่อ และ/หรือ นามสกุล วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ที่ใช้ชื่อและ/หรือนามสกุลเดิม ที่ยังไม่หมดอายุ จะยังใช้เดินทางได้หรือไม่
หากท่านทำการเปลี่ยนชื่อ และ/หรือ นามสกุลตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ จดทะเบียนสมรส หรือจดทะเบียนหย่า ท่านต้องทำหนังสือเดินทางใหม่ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แนะนำให้ท่านยื่นขอวีซ่าใหม่เพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก ประเทศสหรัฐอเมริกา
คำถามที่ 5 ข้าพเจ้าได้รับวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ขณะที่ข้าพเจ้ายังทำงานที่บริษัทเก่า ปัจจุบันข้าพเจ้าเปลี่ยนงานและบริษัทใหม่แล้ว และนายจ้างใหม่ต้องการให้ข้าพเจ้าเดินทางไปประชุมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนหน้า ข้าพเจ้าสามารถใช้วีซ่าเดิมได้หรือไม่ หรือจะต้องยื่นขอวีซ่าใหม่
ท่านสามารถเดินทางไปประเทศสหรัฐฯโดยใช้วีซ่าเดิมที่มีอยู่ได้ ตราบใดที่วีซ่าของท่านยังสามารถใช้เดินทางไปสหรัฐฯเพื่อติดต่อธุรกิจ หรือท่องเที่ยวได้อยู่
คำถามที่ 6 บุตรของข้าพเจ้ากำลังศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าสามารถไปพักอาศัยอยู่กับบุตรได้หรือไม่
ท่านสามารถใช้วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2) ของท่านเอง (หรือเดินทางภายใต้โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าถ้ามี) เพื่อไปเยี่ยมบุตรของท่านได้ แต่ท่านจะไม่สามารถไปอยู่อาศัยอยู่กับบุตรของท่านได้ นอกจากว่าท่านมีวีซ่าถาวร วีซ่าทำงาน หรือวีซ่านักเรียน
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าทำงานชั่วคราว
- คำร้อง (Petiton) คืออะไร
- ข้าพเจ้าสามารถยื่นขอวีซ่าเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไปได้หรือไม่
- ในการยื่นขอวีซ่าทำงานชั่วคราว มีข้อจำกัดทางอายุหรือไม่
- ข้าพเจ้าสามารถให้ญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสปอนเซอร์ในการขอวีซ่าทำงานชั่วคราวได้หรือไม่
- ข้าพเจ้าสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้เมื่อใด
- ใครเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต และจะต้องชำระเมื่อใด
คำถามที่ 1 คำร้อง (Petition) คืออะไร
ก่อนยื่นขอวีซ่าทำงานชั่วคราวที่สถานทูตฯที่กรุงเทพฯ ท่านจะต้องมีแบบฟอร์ม I-129 (คำร้องสำหรับทำงานชั่วคราว) ที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (USCIS) ก่อน โดยว่าที่นายจ้างของท่านจะต้องยื่นคำร้องนี้อย่างน้อยที่สุดหกเดือนก่อนวันเริ่มงานที่กำหนดไว้ และนายจ้างควรยื่นคำร้องโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ภายในระยะเวลาหกเดือนเพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการดำเนินการ เมื่อคำร้องผ่านการอนุมัติแล้ว นายจ้างของท่านจะได้รับแบบฟอร์ม I-797 หรือใบตอบรับ (Notice of Action) ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิกที่นี่
หมายเหตุ: สถานทูตฯ ต้องใช้หมายเลขใบรับคำร้อง I-129 และแบบฟอร์ม I-797 ที่ผ่านการอนุมัติ เพื่อยืนยันว่าคำร้องของท่านผ่านการอนุมัติแล้ว กรุณานำหลักฐานทั้งสองอย่างมาในวันสัมภาษณ์
คำถามที่ 2 ข้าพเจ้าสามารถยื่นขอวีซ่าเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไปได้หรือไม่
ไม่ได้ เนื่องจากไม่มีวีซ่าใดครอบคลุมการทำงานรับจ้างทั่วไป ผู้สมัครทุกคนที่วางแผนจะไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องมีคำร้อง (Petition) ที่ผ่านการอนุมัติแล้วก่อนทำการยื่นขอวีซ่า
คำถามที่ 3 ในการยื่นขอวีซ่าทำงานชั่วคราว มีข้อจำกัดทางอายุหรือไม่
ไม่มีข้อจำกัดทางอายุสำหรับการยื่นขอวีซ่าทำงานชั่วคราว
คำถามที่ 4 ข้าพเจ้าสามารถให้ญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสปอนเซอร์ในการยื่นขอวีซ่าทำงานชั่วคราวได้หรือไม่
ไม่ได้ นายจ้างของท่านเท่านั้นที่จะสามารถเป็นสปอนเซอร์ให้ท่านได้
คำถามที่ 5 ข้าพเจ้าสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้เมื่อใด
ท่านสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้ก่อนวันเริ่มงานครั้งแรกตามที่ระบุไว้บนแบบฟอร์ม I-797 ไม่เกิน 10 วัน
คำถามที่ 6 ใครเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต และจะต้องชำระเมื่อใด
ผู้สมัครวีซ่า L1 ที่มีคำร้องรวม (Blanket petition) จะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต ส่วนผู้สมัครวีซ่ารายบุคคล ประเภท L (เฉพาะบุคคล) H1B และ H2B ผู้ยื่นคำร้องสัญชาติอเมริกันจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตให้กับสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ(USCIS) ระหว่างขั้นตอนการยื่นคำร้อง
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่านักเรียน
- แบบฟอร์ม I-20 คืออะไร และจะได้มาจากไหน
- ข้าพเจ้าควรยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนล่วงหน้านานเท่าใด
- หากข้าพเจ้าได้รับวีซ่านักเรียนแล้ว ควรจะออกเดินทางเมื่อใด
- บุคคลที่มีวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนสถานะของตนเป็นนักเรียนในระหว่างที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่ ถ้าบุคคลนั้นได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในโรงเรียนและได้รับแบบฟอร์ม I-20 แล้ว
- หากข้าพเจ้าได้รับแบบฟอร์ม I-20 จากสถาบันศึกษาแห่งใหม่ จะเป็นอย่างไร
- ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าทำงานด้วยวีซ่า H1B แต่ปัจจุบันได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยตามสถานะ F1 ข้าพเจ้าจำเป็นต้องกลับประเทศตัวเองเพื่อไปยื่นขอวีซ่านักเรียนหรือไม่
- นักเรียนที่มีวีซ่า F1 สามารถทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่
- SEVIS คืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าอย่างไร
คำถามที่ 1 แบบฟอร์ม I-20 คืออะไร และจะได้มาจากไหน
แบบฟอร์ม I-20 เป็นหนังสือรับรองคุณสมบัติสำหรับนักเรียนซึ่งออกให้โดยสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองแล้ว ในการขอวีซ่า F1 หรือ M1 นักเรียนจะต้องมีแบบฟอร์มดังกล่าว ซึ่งแบบฟอร์ม I-20 นี้จะเป็นหลักฐานยืนยันการตอบรับให้เข้าศึกษา รวมถึงเป็นหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่า หรือ ขอเปลี่ยนสถานะของวีซ่า ตลอดจนการขอเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา แบบฟอร์ม I-20 จะมีหมายเลข SEVIS ประจำตัวของนักเรียน ซึ่งขึ้นต้นด้วยตัวอักษร N และตามด้วยตัวเลขสิบหลักอยู่ที่มุมบนทางซ้ายมือ และมีประเภทวีซ่าระบุไว้ที่มุมบนทางขวามือ
คำถามที่ 2 ข้าพเจ้าควรยื่นขอวีซ่านักเรียนล่วงหน้านานเท่าใด
ท่านควรยื่นขอวีซ่านักเรียนทันทีที่ได้รับแบบฟอร์ม I-20 ท่านสามารถยื่นขอวีซ่าล่วงหน้านานเท่าใดก็ได้เพื่อให้กระบวนการดำเนินไปอย่างรวดเร็ว การออกวีซ่านักเรียน (วีซ่าประเภท F และ M) สำหรับนักเรียนใหม่ไม่สามารถออกล่วงหน้าได้เกิน 365 วันก่อนวันเริ่มโปรแกรมตามที่ระบุไว้บนแบบฟอร์ม I-20 ของท่าน
คำถามที่ 3 หากข้าพเจ้าได้รับวีซ่าแล้ว ควรจะออกเดินทางเมื่อใด
สำหรับการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรก ท่านจะสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้ก่อนวันเริ่มต้นการศึกษาตามที่ระบุไว้บนแบบฟอร์ม I-20 ของท่านไม่เกิน 30 วันเท่านั้น ไม่ว่าวีซ่าจะออกให้กับท่านเมื่อใดก็ตาม
คำถามที่ 4 บุคคลที่มีวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนสถานะของตนเป็นนักเรียนในระหว่างที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่ถ้าบุคคลนั้นได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในโรงเรียนและได้รับแบบฟอร์ม I-20 แล้ว
ได้ โดยทั่วไปแล้วท่านสามารถยื่นขอเปลี่ยนสถานะวีซ่าชั่วคราวได้หากท่านเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯอย่างถูกกฎหมายด้วยวีซ่าชั่วคราว สถานะวีซ่าชั่วคราวของท่านยังมีอายุการใช้งานคงเหลืออยู่ ไม่ได้ละเมิดข้อกำหนดต่างๆตามสถานะของวีซ่าของท่าน และไม่ได้ทำการใดๆที่ทำให้ท่านเสียสิทธิ รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาดูที่เว็บไซต์ของสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ(USCIS)
คำถามที่ 5 หากข้าพเจ้าได้รับแบบฟอร์ม I-20 จากสถาบันการศึกษาแห่งใหม่ จะเป็นอย่างไร
หากท่านได้รับแบบฟอร์ม I-20 หลังจากที่จองนัดสัมภาษณ์วีซ่าแล้ว ท่านสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่กงสุลทราบเกี่ยวกับแบบฟอร์ม I-20 ฉบับใหม่ในระหว่างการสัมภาษณ์ได้
คำถามที่ 6 ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าทำงานด้วยวีซ่า H1B แต่ปัจจุบันได้รับการตอบรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยตามสถานะ F1 ข้าพเจ้าจำเป็นต้องกลับประเทศตัวเองเพื่อไปยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนหรือไม่
ไม่จำเป็น หากท่านพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาท่านไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าชั่วคราวใหม่ ท่านสามารถยื่นขอสถานะวีซ่าชั่วคราวใหม่ได้ แต่ท่านจะไม่ได้รับวีซ่าใหม่เนื่องจากวีซ่าจะอนุมัตินอกประเทศสหรัฐฯเท่านั้น ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาว่าท่านจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานะวีซ่าชั่วคราวของท่านหรือไม่ ทั้งนี้หากท่านเดินทางออกนอกประเทศสหรัฐฯ ท่านจะต้องยื่นขอวีซ่านักเรียนเพื่อให้สามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้อีกครั้งหนึ่ง
คำถามที่ 7 นักเรียนที่มีวีซ่า F1 สามารถทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่
นักเรียนที่มีวีซ่า F1 มีโอกาสในการทำงานค่อนข้างจำกัด ท่านสามารถรับการว่าจ้างงานโดยต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาที่ท่านศึกษาอยู่ (DSO)
นักเรียนที่มีวีซ่า F1 ที่คงสถานภาพ ศึกษา อยู่ในระบบฐานข้อมูลนักเรียน SEVIS ทำงานในสถานศึกษาได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และหลังจากคงสถานะการเป็นนักเรียนได้ครบหนึ่งปี ผู้สมัครสามารถสมัครงานนอกสถานศึกษาได้ ถ้าได้รับการอนุมัติจากสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (USCIS)
คำถามที่ 8 SEVIS คืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าอย่างไร
ระบบฐานข้อมูลนักเรียนและนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน (SEVIS) เป็นระบบฐานข้อมูลออนไลน์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ที่ใช้สำหรับดูแล ติดตาม และเก็บข้อมูลนักเรียนที่มีวีซ่า F1 และ M1 ที่เข้ามาศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นผู้สมัครวีซ่านักเรียนจะต้องชำระค่าธรรมเนียม SEVIS I-901 ก่อนจึงจะสามารถออกวีซ่าได้ รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูที่เว็บไซต์ SEVIS
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าสำหรับนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน
- ถ้าข้าพเจ้าได้รับวีซ่าแล้วควรจะออกเดินทางเมื่อใด
- SEVIS คืออะไร และเกี่ยวข้องข้าพเจ้าอย่างไร
- "กฎสองปี" คืออะไร
- กฎสองปีมีการยกเว้นได้หรือไม่
คำถามที่ 1 ถ้าข้าพเจ้าได้รับวีซ่าแล้วควรจะออกเดินทางเมื่อใด
นักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาล่วงหน้า 30 วันก่อนวันเริ่มต้นโครงการตามที่ระบุไว้บนแบบฟอร์ม DS-2019 ไม่ว่าวีซ่าจะออกให้กับท่านเมื่อใดก็ตาม
คำถามที่ 2 SEVIS คืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าอย่างไร
ระบบฐานข้อมูลนักเรียนและนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน (SEVIS) เป็นระบบฐานข้อมูลออนไลน์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ที่ใช้สำหรับดูแล ติดตาม และเก็บข้อมูลนักเรียนที่มีวีซ่า J1 ที่เข้ามาเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นผู้สมัครวีซ่านักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนจะต้องชำระค่าธรรมเนียม SEVIS I-901 ก่อนจึงจะสามารถออกวีซ่าได้ รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาดูที่เว็บไซต์ SEVIS
คำถามที่ 3 "กฎสองปี" คืออะไร
"กฎสองปี" เป็นคำที่มีการใช้บ่อยเมื่อกล่าวถึงมาตราหนึ่งของกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้ผู้มาเยือนตามโครงการแลกเปลี่ยนต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดและพำนักอยู่ที่นั่นเป็นเวลาอย่างน้อยสองปีหลังจากสิ้นสุดโครงการแลกเปลี่ยนของตน ก่อนที่จะสามารถเดินทางกลับไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีกครั้งภายใต้วีซ่าชั่วคราวบางประเภท ได้แก่ วีซ่าทำงานชั่วคราว (H1) วีซ่าพนักงานที่ย้ายไปทำงานที่สหรัฐฯชั่วคราวภายใต้การจ้างงานของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน (L1) วีซ่าคู่หมั้น (K1) วีซ่าถาวร และสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร ผู้สมัครจะต้องทำความเข้าใจว่าการพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎสองปีจะระบุอยู่บนแบบฟอร์ม DS-2019 ของท่าน เมื่อท่านได้รับอนุมัติวีซ่า J1 การพิจารณาขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นเมื่อท่านยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภท H1 L1 K1 วีซ่าถาวร หรือสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรตามกฎหมายในภายหลังเท่านั้น
ผู้ถือวีซ่า J1 ที่อยู่ภายใต้กฎสองปีจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศสหรัฐฯ และไม่ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอแก้ไข/เปลี่ยนแปลงสถานภาพ (ตัวอย่างเช่น จากวีซ่า J1 เปลี่ยนเป็นวีซ่า H1) หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรตามกฎหมาย (กรีนการ์ด) หากไม่ได้เดินทางกลับประเทศบ้านเกิดและพำนักอยู่เป็นเวลาสองปีเสียก่อน หรือได้รับการอนุมัติผ่อนผัน การพิจารณาว่าท่านอยู่ภายใต้กฎสองปีหรือไม่นั้นดูจากปัจจัยหลายอย่างซึ่งรวมถึงแหล่งเงินทุนของท่านและ "รายการทักษะ (Skills List)" ของประเทศของท่าน ท่านสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ Federal Register
คำถามที่ 4 กฎสองปีมีการยกเว้นได้หรือไม่
อาจมีการยกเว้นได้ในบางกรณี ซึ่งจะมีเพียงสำนักงานวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเท่านั้นที่สามารถให้สิทธิ์ยกเว้นกฎสองปีได้ โดยไม่ว่าหนังสือเดินทางของท่านจะถูกระบุไว้ว่าอย่างไรก็ตาม สำนักงานวีซ่าจะมีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาว่าท่านอยู่ภายใต้กฎดังกล่าวหรือไม่ ในกรณีที่ท่านอยู่ภายใต้กฎสองปี ท่านอาจได้รับการผ่อนผัน และถึงแม้ท่านจะอยู่ภายใต้กฎสองปี ท่านก็ยังมีสิทธิ์ได้รับ วีซ่าธุรกิจ/นักท่องเที่ยวหรือวีซ่าชั่วคราวประเภทอื่นๆ ยกเว้น วีซ่าทำงานชั่วคราว (H1) วีซ่าพนักงานที่ย้ายไปทำงานที่สหรัฐฯชั่วคราวภายใต้การจ้างงานของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน (L1) และวีซ่าคู่หมั้น (K1)
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ
คำถามที่ 1 ข้าพเจ้าวางแผนที่จะแวะพักที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหนึ่งวันและนั่งเครื่องบินต่อไปประเทศอื่นในวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าผ่านแดน (C1) หรือวีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B1/B2)
หากท่านมองหาเอกสิทธิของการหยุดพักระหว่างทางสำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆที่นอกเหนือจากการผ่านดินแดนประเทศสหรัฐฯ เช่น ไปเยี่ยมเพื่อนหรือเดินทางท่องเที่ยว ท่านจะต้องมีคุณสมบัติเพียงพอและได้รับวีซ่าประเภทที่กำหนดไว้สำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าว เช่นวีซ่าท่องเที่ยว (B2)
คำถามที่พบบ่อย - วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนาชั่วคราว
คำถามที่ 1 ข้าพเจ้ากำลังยื่นขอวีซ่าสำหรับผู้เผยแผ่ศาสนาชั่วคราว (R1) แต่ไม่มีคำร้อง (Petition) ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ข้าพเจ้าเคยเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่า R1 มาก่อน และไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องมีคำร้องด้วย ข้าพเจ้าสามารถยื่นขอวีซ่า R1 โดยไม่มีคำร้องเนื่องจากในอดีตข้าพเจ้าเคยมีวีซ่า R1 แล้วได้หรือไม่
ข้อกำหนดให้มีคำร้อง (Petition) ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ผู้สมัครที่ยื่นขอวีซ่า R1 ทุกท่านจะต้องมีคำร้องที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (USCIS) แล้ว ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาคลิกที่นี่
คำถามที่พบบ่อย - ตรวจสอบสถานะหนังสือเดินทางของข้าพเจ้า
- ทำไมต้องใช้ซองจดหมายหนึ่งซองต่อหนังสือเดินทางหนึ่งเล่ม ทำไมไม่มีส่วนลดสำหรับครอบครัว
- ข้าพเจ้าจะรับหนังสือเดินทางคืนหลังจากการสัมภาษณ์ได้อย่างไร
- ข้าพเจ้าต้องแสดงหลักฐานใดบ้าง เพื่อขอรับหนังสือเดินทางที่ทำการไปรษณีย์
- หากข้าพเจ้าไม่อยู่บ้านตอนที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มาส่งหนังสือเดินทาง จะต้องทำอย่างไร
- จำเป็นต้องให้ส่งหนังสือเดินทางไปที่บ้านที่เดียวหรือไม่
- ข้าพเจ้าจำเป็นต้องแสดงหลักฐานใดบ้างเมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำหนังสือเดินทางมาส่งคืนให้
- บัตรประจำตัวประเภทใดที่สามารถใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ตัวตนได้
- บุคคลอื่นสามารถมารับหนังสือเดินทางแทนข้าพเจ้าได้หรือไม่
- ข้าพเจ้าต้องชำระค่าบริการจัดส่งเอกสารหรือไม่
คำถามที่ 1 ทำไมต้องใช้ซองจดหมายหนึ่งซองต่อหนังสือเดินทางหนึ่งเล่ม ทำไมไม่มีส่วนลดสำหรับครอบครัว
กฎเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยของบริการจัดส่งเอกสารกำหนดให้การตรวจสอบสถานะของหนังสือเดินทางแต่ละเล่มแยกกัน และไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับบริการจัดส่งเอกสารเพื่อนำส่งหนังสือเดินทางคืนให้กับท่าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมอยู่ในค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว
คำถามที่ 2 ข้าพเจ้าจะรับหนังสือเดินทางคืนหลังจากการสัมภาษณ์ได้อย่างไร
หนังสือเดินทางของท่านจะถูกส่งไปตามที่อยู่ที่ท่านได้ระบุไว้เมื่อทำการนัดสัมภาษณ์ หากท่านต้องการเปลี่ยนที่อยู่สำหรับการจัดส่งเอกสาร ท่านสามารถเปลี่ยนได้ทางออนไลน์ หรือผ่าน เจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ ภายในเวลา 12:00 น. ก่อนหน้าวันนัดหมายสัมภาษณ์ หากท่านมีแผนการที่จะเดินทางอย่างเร่งด่วน ท่านควรเลือกรับหนังสือเดินทางคืนจากที่ทำการไปรษณีย์รองเมืองเพื่อรับหนังสือเดินทางให้เร็วขึ้น โดยค่าใช้จ่ายในการส่งเอกสารได้รวมอยู่ในค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว
คำถามที่ 3 ข้าพเจ้าต้องแสดงหลักฐานใดบ้างเพื่อขอรับหนังสือเดินทางที่ทำการไปรษณีย์
เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือเดินทางและวีซ่าของท่านจะไม่ตกอยู่ในความครอบครองของผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ท่านจะต้องแสดงบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการเพื่อขอรับหนังสือเดินทาง และท่านต้องลงชื่อยืนยันในเอกสารทั้งหมดที่ที่ทำการไปรษณีย์กำหนด
คำถามที่ 4 หากข้าพเจ้าไม่อยู่ที่บ้านตอนที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์มาส่งหนังสือเดินทาง จะต้องทำอย่างไร
ที่ทำการสำนักงานไปรษณีย์ไทยจะเก็บหนังสือเดินทางของท่านไว้เจ็ดวันเท่านั้น หากไม่มีผู้รับในการจัดส่งครั้งแรก ที่ทำการไปรษณีย์จะทิ้งใบแจ้งเตือนให้ท่านติดต่อเพื่อทำการจัดส่งเป็นครั้งที่สอง หรือ ท่านสามารถนำใบแจ้งเตือนมารับภายในเจ็ดวัน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ หากท่านไม่มารับหนังสือเดินทางภายในเจ็ดวัน หนังสือเดินทางจะถูกส่งไปที่ที่ทำการไปรษณีย์รองเมือง (สำหรับผู้สัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพ) หรือ ที่ทำการไปรษณีย์แม่ปิง (สำหรับผู้สัมภาษณ์วีซ่าที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำเชียงใหม่) ในวันจัดส่งที่ แปด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อท่านเป็นครั้งสุดท้าย หากยังไม่มีผู้รับ หนังสือเดินทางจะถูกส่งคืนไปยัง สถานทูตฯ หรือ สถานกงสุล ที่ท่านยื่นสมัครวีซ่าในวันจัดส่งที่ 15 ต่อไป
คำถามที่ 5 จำเป็นต้องให้ส่งหนังสือเดินทางไปที่บ้านที่เดียวหรือไม่
ไม่จำเป็น ท่านสามารถขอให้ส่งหนังสือเดินทางไปยังที่ทำงานของท่านหรือที่อยู่ของสมาชิกในครอบครัวของท่านก็ได้ หากท่านต้องการให้ส่งหนังสือเดินทางของท่านไปยังผู้อื่น ผู้รับต้องแสดงบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการและเอกสารบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อแสดงหลักฐานขอรับหนังสือเดินทาง
คำถามที่ 6 ข้าพเจ้าจำเป็นต้องแสดงหลักฐานใดบ้างเมื่อเจ้าหน้าไปรษณีย์นำหนังสือเดินทางมาส่งคืนให้
เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือเดินทางและวีซ่าของท่านจะไม่ตกอยู่ในความครอบครองของผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ท่านจะต้องแสดงบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการเพื่อขอรับหนังสือเดินทาง และท่านต้องลงชื่อในเอกสารทั้งหมดที่ที่ทำการไปรษณีย์กำหนด
คำถามที่ 7 บัตรประจำตัวประเภทใดที่สามารถใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ตัวตนได้
ท่านต้องแสดงบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการ
คำถามที่ 8 บุคคลอื่นสามารถมารับหนังสือเดินทางแทนข้าพเจ้าได้หรือไม่
ได้ ทั้งนี้ผู้แทนของท่านซึ่งแม้จะเป็นสมาชิกในครอบครัวก็ตาม จะต้องแสดงเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อขอรับหนังสือเดินทางของท่าน
หากบุคคลอื่นขอรับหนังสือเดินทางจากจุดรับยื่นเอกสารแทนท่าน บุคคลนั้นจะต้องแสดงหลักฐานต่อไปนี้
- บัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการของผู้มารับแทน
- สำเนาบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการของเจ้าของหนังสือเดินทาง พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องกำกับ
- หนังสือมอบอำนาจที่ท่านลงชื่อเพื่ออนุญาตให้บุคคลดังกล่าวขอรับหนังสือเดินทางแทน โดยหนังสือมอบอำนาจต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้
- ชื่อนามสกุลจริงของผู้มารับแทนที่ตรงกับบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการ
- ชื่อนามสกุลของท่าน โดยระบุให้ตรงกับหนังสือเดินทาง และ ระบุหมายเลขหนังสือเดินทางด้วย
หากผู้สมัครมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ท่านต้องจัดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- หนังสือมอบอำนาจที่ลงชื่อโดยบิดาหรือมารดาของผู้สมัคร
- สำเนาบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการของผู้ปกครองที่ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องกำกับ
- บัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการของผู้มารับแทน
หมายเหตุ: ในกรณีที่ผู้สมัครเป็นกลุ่มหรือครอบครัว ท่านสามารถยื่นหนังสือมอบอำนาจฉบับเดียวที่ระบุข้อมูลของผู้สมัครทุกคนตามที่กำหนดไว้ได้
คำถามที่ 9 ข้าพเจ้าต้องจ่ายค่าบริการจัดส่งเอกสารหรือไม่
ไม่ ค่าบริการในการจัดส่งได้รวมอยู่ในค่าธรรมเนียมวีซ่าหรือค่าธรรมเนียมวีซ่าถาวรแล้ว
คำถามที่พบบ่อย - โปรไฟล์ผู้สมัคร
- ข้าพเจ้าจะตั้งรหัสผ่านใหม่ได้อย่างไร?
- หากข้าพเจ้าสร้างโปรไฟล์ที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com แล้วและต้องย้ายไปประเทศอื่นโดยที่ยังไม่ได้จองนัดสัมภาษณ์วีซ่า หรือหากข้าพเจ้าต้องการย้ายโปรไฟล์จากประเทศหนึ่งมายังอีกประเทศหนึ่ง ข้าพเจ้าควรทำอย่างไร
คำถามที่ 1 ข้าพเจ้าจะตั้งรหัสผ่านใหม่ได้อย่างไร
คลิกที่ลิ้งค์ ลืมรหัสผ่านของคุณหรือ? ซึ่งอยู่ด้านล่างบนหน้าเว็บเข้าสู่ระบบกรอกที่อยู่อีเมลของท่านในช่องชื่อผู้ใช้ แล้วคลิก ส่ง ที่อยู่อีเมลที่ท่านระบุต้องเป็นที่อยู่อีเมลเดียวกันกับที่ท่านใช้สร้างโปรไฟล์ของท่าน รหัสผ่านใหม่จะถูกส่งไปตามที่อยู่อีเมลของท่าน
โปรดทราบ: อีเมลและรหัสผ่านใหม่ของท่านจะถูกส่งมาจาก no-reply@ustraveldocs.com อีเมลบางประเภทอาจมีการตั้งค่าคัดกรองอีเมลผู้ส่งที่ไม่รู้จักไปยังโฟลเดอร์ขยะหรือโฟลเดอร์สแปม หากท่านไม่ได้รับการแจ้งเตือนอีเมล กรุณาตรวจสอบข้อความในโฟลเดอร์ขยะ หรือโฟลเดอร์สแปม
คำถามที่ 2 หากข้าพเจ้าสร้างโปรไฟล์ที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com แล้วและต้องย้ายไปประเทศอื่นโดยที่ยังไม่ได้จองนัดสัมภาษณ์วีซ่า หรือหากข้าพเจ้าต้องการย้ายโปรไฟล์จากประเทศหนึ่งมายังอีกประเทศหนึ่ง ข้าพเจ้าควรทำอย่างไร
ท่านไม่จำเป็นต้องสร้างโปรไฟล์ใหม่หากโปรไฟล์เดิมได้สร้างจากเว็บไซต์ที่ให้บริการโดยบริษัท CGI ท่านสามารถติดต่อเราผ่านแถบเมนู ติดต่อเรา บนเว็บไซต์นี้ และระบุหมายเลขหนังสือเดินทาง เลข UID หรือที่อยู่อีเมลเพื่อที่เราจะสามารถเรียกและทำการเปลี่ยนโปรไฟล์ของท่านไปยังประเทศที่ท่านต้องการยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ หากท่านกำลังยื่นขอวีซ่าในประเทศที่บริษัท CGI ไม่ได้ให้บริการ ท่านจะต้องสร้างโปรไฟล์ใหม่ โปรดทราบว่าค่าธรรมเนียมวีซ่าไม่สามารถโอนย้ายประเทศได้
คำถามที่พบบ่อย - ผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19
คำถามที่ 1 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะกำหนดให้ผู้สมัครวีซ่าต้องแสดงผลรับรองการฉีดวัคซีน หรือผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19 หรือไม่
ทางกระทรวงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการสมัครวีซ่าในขณะนี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนที่กำหนดสำหรับผู้สมัครวีซ่าถาวรที่เว็บไซต์นี้
คำถามที่พบบ่อย - การบรรเทาทุกข์สำหรับบุคคลที่ถูกปฏิเสธภายใต้พระราชบัญญัติ 9645
- ผู้ที่ได้รับประโยชน์ภายใต้คำสั่งของศาล
- วิธีการขอรับประโยชน์จากคำสั่งศาล
- ต้องรอนานแค่ไหนสำหรับการตัดสินคุณสมบัติหลังจากส่งข้อมูลที่จำเป็น
- สิ่งที่คุณต้องเตรียมก่อนส่งคำขออย่างเป็นทางการ
คำถามที่ 1 ผู้ที่ได้รับประโยชน์ภายใต้คำสั่งของศาล
หากคุณเป็นพลเมืองของอิหร่าน ลิเบีย เกาหลีเหนือ โซมาเลีย ซีเรีย เวเนซุเอลา หรือเยเมน และถูกปฏิเสธวีซ่าภายใต้พระราชบัญญัติ 9645 ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึง 20 มกราคม 2564 และไม่ได้รับการยกเว้นภายใต้พระราชบัญญัติ 9645 คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามคำสั่งของศาล
คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือภายใต้คำสั่งนี้ หาก:
- คุณยังไม่ได้ส่งแบบฟอร์ม DS-160 ใหม่ทางออนไลน์สำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว หรือแบบฟอร์ม DS-260 ใหม่ทางออนไลน์สำหรับการสมัครวีซ่าถาวร นับตั้งแต่ใบสมัครครั้งก่อนที่ถูกปฏิเสธภายใต้พระราชบัญญัติ 9645; หรือ
- คุณได้ส่งแบบฟอร์ม DS-160 ใหม่ทางออนไลน์สำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว หรือแบบฟอร์ม DS-260 ใหม่ทางออนไลน์สำหรับการสมัครวีซ่าถาวร แต่ยังไม่ได้เข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่า (การนัดหมายที่สถานกงสุล)
คุณไม่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามคำสั่งนี้ หาก:
- การสมัครของคุณที่ถูกปฏิเสธภายใต้พระราชบัญญัติ 9645 เป็นการยื่นขอวีซ่าประเภทความหลากหลาย (diversity visa);
- คุณได้รับการยกเว้นในขณะที่พระราชบัญญัติ 9645 ยังคงมีผลบังคับใช้;
- คุณได้รับวีซ่าตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564; หรือ
- คุณได้ทำการสมัครใหม่ เข้าร่วมการสัมภาษณ์วีซ่า (การนัดหมายที่สถานกงสุล) และได้รับผลการพิจารณา ซึ่งรวมถึงการปฏิเสธภายใต้มาตรา 221 (g) ของพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564
บุคคลที่ได้รับประโยชน์ภายใต้คำสั่งนี้จะเรียกว่า "สมาชิกกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์" ซึ่งเฉพาะสมาชิกกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์จากคำสั่งนี้
คำถามที่ 2 วิธีการขอรับประโยชน์จากคำสั่งศาล
หากคุณมีสิทธิ์ตามเงื่อนไขที่ระบุข้างต้นและคุณตั้งใจจะสมัครในประเทศไทย โปรดสร้างโปรไฟล์ผู้สมัคร จากนั้นกรอกแบบฟอร์มนี้ ระบุรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับใบสมัครที่คุณถูกปฏิเสธก่อนหน้านี้ คำขอของคุณจะได้รับการตรวจสอบ และคุณจะได้รับอีเมลแจ้งว่าคุณมีสิทธิ์หรือไม่ รวมถึงคำแนะนำในการใช้เครดิตแบบครั้งเดียวของคุณ อย่าส่งคำขอหลายคำขอหรือขอเครดิตผ่านช่องทางอื่น ๆ เพราะอาจทำให้การสมัครของคุณล่าช้า
หากคุณต้องการสมัครในประเทศอื่น โปรดไปที่เว็บไซต์นี้ เพื่อดูคำแนะนำในการขอรับเครดิตแบบครั้งเดียวของคุณ
คำถามที่ 3 ต้องรอนานแค่ไหนสำหรับการตัดสินคุณสมบัติหลังจากส่งข้อมูลที่จำเป็น
โปรดรอ 7 วันทำการ เพื่อรับการแจ้งเตือนทางอีเมลเกี่ยวกับการประเมินสถานะสมาชิกกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์ของคุณ
คำถามที่ 4 สิ่งที่คุณต้องเตรียมก่อนส่งคำขออย่างเป็นทางการ:
โปรดปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อส่งคำขอของคุณ:
- สร้างโปรไฟล์ที่ www.ustraveldocs.com และเลือกประเทศที่คุณต้องการสมัคร
- ปฏิบัติตามขั้นตอนของการสมัครเพื่อเลือกประเภทวีซ่า โพสต์ และตัวเลือกการจัดส่งเอกสาร โปรดอย่าดำเนินการผ่านหน้าการชำระเงิน
- หากคุณไม่ได้สมัครในอินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี ญี่ปุ่น หรือฟิจิ: ให้ใช้หมายเลข UID ของโปรไฟล์ของคุณจากมุมขวาบน
- หากคุณสมัครในอินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิจิ ให้เลือก “Applicants affected by PP9645” สำหรับประเภทการชำระเงิน และส่งคำขอ จากนั้นคุณจะได้รับหมายเลขอ้างอิงการชำระเงินของคุณ
- กรอกแบบฟอร์มของ CGI ที่นี่ พร้อมรายละเอียดด้านล่าง:
- ชื่อ
- เพศ
- วันเกิด
- สถานที่เกิด
- ชื่อเมืองที่คุณสมัครก่อนหน้านี้
- สัญชาติ
- ประเภทวีซ่าที่สมัครซึงถูกปฏิเสธตามพระราชบัญญัติ 9645
- หมายเลขหนังสือเดินทางในการสมัครซึ่งถูกปฏิเสธตามพระราชบัญญัติ 9645
- หมายเลขบาร์โค้ด DS-160/DS-260 (ถ้ามี)
- ประเทศที่คุณกำลังสมัครในขณะนี้ (ต้องตรงกับโปรไฟล์ผู้สมัครของคุณ)
- หมายเลข UID/หมายเลขอ้างอิง (ต้องตรงกับโปรไฟล์ผู้สมัครของคุณ)
- อีเมล